|
art of strategy (คุณธรรมประมุข)
|
![]() |
|
น้ำลอยเรือได้ ก็ล่มเรือได้ นี่คือสุภาษิตจีนที่สอนเตือนใจผู้นำผู้ปกครองทุกระดับ ทุกองค์กรและทุกท่าน อย่าได้ลืมพื้นเพรากเหง้าของตน อย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมจนลืมความยากลำบากของการสร้างเนื้อสร้างตัวในอดีต และอย่าหลงลืมตัวในความสำเร็จจนละเลยผู้ตามผู้ใต้บังคับบัญชาหรือประชาชนทั้งมวล น้ำ หมายถึง ราษฎร เรือ หมายถึง ประมุข หากผู้นำผู้ปกครอง ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ก็มิอาจดำรงตำแหน่งอยู่ได้ เหมือนดั่งเรือที่มิอาจลอยหากปราศจากน้ำคอยรองรับ ทำนองเดียวกัน หากน้ำไม่ปรารถนาเรือ ก็สามารถล่มเรือให้จมลงได้ เหมือนดั่งวันใดที่ประชาชนปฏิเสธไม่ยอมรับตัวผู้นำ ก็อาจร่วมแรงร่วมใจคว่ำผู้นำคนนั้นลงจากตำแหน่ง ความสำเร็จของผู้นำผู้ปกครอง อยู่ที่ ศรัทธา ที่ได้รับจากประชาชน หมายความว่า ผู้ต้องการประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำของหมู่ชน ต้องเริ่มต้นด้วยการคิดคำนึงถึงประเทศชาติประชาชนเป็นหลัก ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมเหนือประโยชน์ส่วนตน ช่วยคนที่อ่อนแอและด้อยโอกาสให้สามารถยืนหยัดพึ่งพาตัวเองได้ การมีจิตใจกว้างขวาง รู้จักแบ่งปันแก่ผู้อื่น คือคุณสมบัติสำคัญอย่างยิ่งของผู้นำ ความเห็นแก่ตัวเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของคนเรา คนที่รู้จักแต่แสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว ไม่นับว่าพิเศษหรือเหนือชั้นกว่าผู้อื่น จึงยากที่ใครจะยกย่อง ตรงกันข้าม ยิ่งเห็นแก่ตัวมาก ผู้คนยิ่งชิงชังรังเกียจ แต่สำหรับความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โอบอ้อมอารี ความรู้จักเห็นอกเห็นใจและเสียสละแก่ผู้อื่น เป็นคุณสมบัติที่หาได้ยาก ไม่ใช่ทุกคนจะกระทำได้ ดังนั้น ผู้ที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ ย่อมได้รับการยกย่องนับถือและยกขึ้นเป็นผู้นำผู้ปกครอง เพราะเปี่ยมด้วยเมตตากรุณา ดังนั้น สิ่งที่ผู้นำได้รับ ย่อมหมายถึงสิ่งที่คนทั้งหลายจะได้รับด้วย เพราะคำนึงถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ ดังนั้น อำนาจที่ผู้นำได้รับ ย่อมถูกใช้ไปเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนทั้งมวล นี่คือความหมายของ คุณธรรม ประมุข ! ในโลกธุรกิจปัจจุบันที่ถูกครอบด้วยทุนนิยม ผลตอบแทนสูงสุดของผู้ถือหุ้น (Shareholder) คือเป้าหมายของทุกองค์กร การบริหาร การตลาด รวมถึงกลยุทธ์ต่างๆ ล้วนเป็นไปเพื่อจุดหมายนี้ทั้งสิ้น แน่นอนที่สุด ลูกค้ายังคงความสำคัญอย่างมาก เพราะพวกเขาคือแหล่งที่มาของรายได้ และกระบวนการ (Process) ทั้งหลายขององค์กร ก็ดำเนินไปเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุดเท่านั้น ไม่มีใครปฏิเสธว่า การสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า (Customer Satisfaction) ไม่สำคัญ ลูกค้าคือบุคคลสำคัญอยู่แล้ว แต่ถ้าองค์กรคำนึงถึงผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นมากเกินไป ก็ยากที่จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุดได้ เพราะการตอบสนองความต้องการของลูกค้า หมายถึง ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน และเมื่อไม่อาจสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า พวกเขาก็ย่อมหันไปหาคู่แข่งรายอื่นที่ทำได้ ดังนี้แล้ว แทนที่จะได้ผลตอบแทนสูงสุด ก็กลายเป็นไม่ได้อะไรเลย ขณะเดียวกัน องค์กรธุรกิจจะขับเคลื่อนไป มิใช่อาศัยแค่เจ้าของหรือผู้บริหารเท่านั้น ความสำเร็จจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบุคลากรทุกคนทำงานเต็มความสามารถ รับผิดชอบและผลักดันงานของตนให้บรรลุผลและมีประสิทธิภาพสูงสุด ประเด็นสำคัญ คือ ผู้ถือหุ้นและผู้บริหารไม่ได้ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง แต่ตัวพนักงานต่างหากอยู่ในจุดที่ติดต่อ (Contact Point) กับลูกค้า ดังนั้น หากพนักงานไม่เอาใจใส่ ต่อให้ผู้บริหารเก่งกาจแค่ไหน ก็มิอาจทำให้องค์กรประสบความสำเร็จไปได้ การกระตุ้นจูงใจพนักงาน (บริหารคน) จึงเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของผู้นำองค์กร หากผู้ถือหุ้นและผู้บริหาร มิอาจ ซื้อใจ พนักงาน แล้วจะให้พนักงานไปซื้อใจลูกค้าได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน การรู้จักแบ่งปัน (หรือคำนึงถึง) ผลประโยชน์แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง (Stakeholder) ทุกฝ่าย คือเคล็ดลับในการบริหารคน และคือ คุณธรรม ของชนชั้นผู้นำผู้ปกครอง คัมภีร์ เต๋าเต็กเก็ง กล่าวไว้ว่า การพลิกกลับสู่ด้านตรงข้าม คือ การเคลื่อนไหวของเต๋า อยากจะได้รับ ต้องเริ่มต้นด้วยการให้ อยากเป็นผู้นำ ต้องเริ่มต้นด้วยการเข้าถึงจิตใจของผู้ตาม เฉกเช่นเดียวกับวิถีในการบริหารองค์กรธุรกิจยุคปัจจุบัน เริ่มต้นด้วยการให้ ในที่สุด ก็จะได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทนกลับมาเช่นกัน ! อย่างไรก็ดี คุณธรรมประมุขยังมีอีกหนึ่งมิติสำคัญที่ควรแก่การพิจารณา ไม่เกินสามชั่วคน จะเกิดการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินประโยคนี้ นี่คือคำพังเพยของชาวจีน บอกถึงความเป็นอนิจจังของกิจการทั้งหลาย กล่าวคือ บริษัทห้างร้านกิจการที่เริ่มต้นในรุ่นปู่ ขยายรากฐานมั่นคงในรุ่นพ่อ แต่มาเสื่อมโทรมล่มสลายในรุ่นลูก หากวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง ความเสื่อมอาจเกิดจากเหตุปัจจัยหลายประการ เช่น เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงกฎหมายข้อบังคับ คู่แข่งรายใหญ่จากต่างชาติ การปฏิวัติเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ฯลฯ แต่ข้อที่ยกมาอ้างกันอยู่เสมอ คือ ยิ่งรุ่นหลังมากเท่าไร ยิ่งห่างไกลจากความลำบากในการสร้างตัว จึงไม่เห็น คุณค่า และปราศจากพลังในการสืบทอด เหตุผลนี้แม้มีน้ำหนักไม่น้อย แต่ก็มิอาจวัดได้เสมอไป เพราะโลกไม่เคยหยุดนิ่ง สรรพสิ่งล้วนแปรเปลี่ยนตลอดเวลา ทุกยุคสมัยล้วนมีเงื่อนไขสภาพแวดล้อมของตัวเอง ความยากลำบากของคนแต่ละรุ่นย่อมไม่เหมือนกันและมิอาจนำมาเปรียบเทียบกันได้ง่ายๆ แต่เหตุผลสำคัญที่มองข้ามกันไป คือ ความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันภายในกิจการ รุ่นปู่ผู้บุกเบิกสร้างเนื้อสร้างตัว ทุกท่านล้วนมีบุคลิกภาพผู้นำ (Leadership) ไม่เพียงเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวทรหดอดทน ทั้งยังใกล้ชิดใส่ใจพนักงาน เผื่อแผ่ผลประโยชน์ทั่วถึง เจ้าของพนักงานร่วมทุกข์สุขและเติบโตไปด้วยกัน แต่ยุคหลัง คนเก่าปลดเกษียณ คนใหม่เข้าแทนที่ ขาดสำนึกในการต่อสู้ฟันฝ่าร่วมกัน จึงเกิดความเหินห่าง และเมื่อองค์กรขยายตัวใหญ่ขึ้น ยิ่งแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย แต่ละฝ่ายก็ใส่ใจเฉพาะหน้าที่และผลประโยชน์ของตน ยิ่งห่างเหินมากขึ้นไปอีก องค์กรย่อมเสื่อมโทรมและอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ คุณธรรม (ในมิตินี้) จึงหมายถึงคุณสมบัติของประมุข ที่สามารถเหนี่ยวนำชักจูงทุกคนในองค์กรสมัครสมานสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว และแปรเปลี่ยนเป็นพลังในการต่อสู้ปัญหาอุปสรรคทั้งหลายทั้งมวลจนไปสู่ความสำเร็จ คุณสมบัติประการนี้ คือเงื่อนไขชี้ขาดชัยชนะในทุกสมรภูมิ ตำราพิชัยสงคราม ซุนวู กล่าวว่า ดังนั้น พึงวิเคราะห์จากเงื่อนไขทั้งห้า นำมาประเมินเปรียบเทียบ เพื่อหยั่งถึงดุลกำลังของแต่ละฝ่าย ความได้เปรียบเสียเปรียบ และการดำเนินกลยุทธ์ หนึ่ง คือ เต๋า (คุณธรรม) สอง คือ ดินฟ้าอากาศ สาม คือ ยุทธภูมิ สี่ คือ แม่ทัพ ห้า คือ กฎระเบียบ ในบรรดาเงื่อนไขทั้งห้า คุณธรรมคือข้อแรกและข้อสำคัญที่สุด คุณธรรมประมุข คือ ขั้นสูงสุดของวิชาพิชัยสงคราม
ที่มา : ถนน นักลงทุน (กรุงเทพธุรกิจ วัน
จันทร์ ที่ 12 มิถุนายน 2546) |
|